ฉลากโภชนาการ คือ

ฉลากโภชนาการ เป็นยังไง?
ฉลากโภชนาการ คือ ฉลากที่ถูกติดไว้บนสินค้าของกินหรือเครื่องดื่มสำเร็จรูปจำพวกต่างๆเพื่อบอกข้อมูลทางด้านโภชนาการ อาทิเช่น จำนวนและก็องค์ประกอบ คุณประโยชน์ทางของกิน วันที่ผลิต คุณประโยชน์ต่างๆฯลฯ ปกติแล้ว ฉลากโภชนาการมักเป็นทรงสี่เหลี่ยม ติดไว้ที่ข้างหลังหรือข้างๆของสินค้าชิ้นนั้นๆฉลากโภชนาการจะประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญๆ3 ส่วนที่สำคัญ เป็น

1. ข้อมูลข้างในกรอบข้อมูลโภชนาการ

2. ข้อแก้ตัวคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น มีจำนวนไขมันต่ำ ปราศจากน้ำตาล (Sugar Free) ไม่มีคลอเรสโคนรอคอยล มีโปรตีนสูง และก็ เสริมวิตามินซี ฯลฯ

3. รายการเครื่องปรุงหรือส่วนประกอบของของกินที่เรียงลำดับจากส่วนประกอบเยอะที่สุดไปจนกระทั่งต่ำที่สุด

การแสดงฉลากโภชนาการควรเป็นการแสดงด้วยความเต็มใจสำหรับสินค้าทุกประเภท โดยที่สินค้าอาหารสำเร็จรูป บางประเภทก็ได้รับข้อละเว้น ให้ไม่ต้องมีฉลากโภชนาการได้ อย่างเช่น ของกินที่ใส่ในห่อขนาดเล็ก ของกินที่สร้างขึ้นในร้านค้า หรือของกินที่ผลิตขึ้นมาจากผู้สร้างรายเล็ก แล้วก็ผู้สร้างที่ทำงานแสดงฉลากโภชนาการบนสินค้าต้องเป็นไปตามหลักกฏเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้

ประโยช์จากฉลากโภชนาการ
สำหรับฉลากโภชนาการที่ถูกติดไว้บนสินค้าประเภทต่างๆนั้น มีเป้าประสงค์เพื่อมีประโยชน์โดยตรงแก่คนซื้อ ดังนี้

– เพื่อเป็นข้อมูลให้ลูกค้าดีกว่าเทียบเคียงข้อมูลผลิตภัณฑ์ในประเภทเดียวกัน

– เพื่อช่วยทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้ตามสมควรและก็ต้องต่อสุขภาพร่างกาย

– เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนเจ็บบางชนิด เป็นต้นว่า คนป่วยโรคเบาหวาน สามารถมองได้ว่าสินค้าประเภทใดที่ไม่มีน้ำตาล หรือ มีจำนวนน้ำตาลที่ต่ำ

แบบอย่างความหมายของฉลากโภชนาการ

– ขนาดหน่วยบริโภคเป็นจำนวนของสินค้าของกินจำพวกนั้นๆที่สมควร ที่ชี้แนะให้บริโภคต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งจะมีการบอกน้ำหนักหรือขนาดในฉลากให้มองเห็น

– ปริมาณหน่วยบริโภคต่อกล่อง/ถุง/ซอง เป็นจำนวนครั้งที่กินได้ใน 1 หน่วยบริโภคที่กำหนดไว้ อาทิเช่น แม้กำหนดไว้ว่าพอๆกับ 3 หน่วยบริโภค จะซึ่งก็คือ สามารถกินได้ 3 ครั้ง แต่ว่าหากรับประทานหมดข้างในครั้งเดียว จำนวนของโภชนาการที่ได้จำต้องคูณ 3 เข้าไปด้วย

– พลังงานต่อหน่วยบริโภคเป็นข้อมูลที่โล่งแจ้งให้รู้ว่า แม้กินตามจำนวนที่เจาะจงเอาไว้ภายใน “หนึ่งหน่วยบริโภค” แล้วจะได้รับพลังงานเท่าไร แล้วก็มีพลังงานจากไขมันเท่าไร เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเทียบสินค้าของกินในประเภทเดียวกัน แต่ว่าต่างแบรนด์กัน ว่าสินค้าใดให้พลังงานมากมายน้อยกว่ากัน

– พลังงานจากไขมัน เป็นจำนวนของไขมันทั้งหมดทั้งปวงในของกินจำพวกนั้นต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งจะมีคุณประโยชน์สำหรับคนที่อยากได้ควบคุมรวมทั้งหลบหลีกของกินที่มีไขมันสูง โดยจำนวนไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงานกับร่างกายพอๆกับ 9 แคลอรี่

– จำนวนร้อยละของจำนวนที่เสนอแนะต่อวัน (%DV หรือ Daily Value)เป็นค่าถัวเฉลี่ยของสารอาหารประเภทนั้นๆว่ามีคุณค่าทางโภชนาการ คิดเป็นจำนวนร้อยละของจำนวนที่ชี้แนะต่อวันได้มากแค่ไหน โดยจะกระทำการยึดระดับ 2,000 แคลอรีเป็นหลัก ดังเช่น ถ้าหากมีความต้องการได้รับสารอาหารบางจำพวกต่ำ จำเป็นต้องเลือกของกินที่มี %DVต่ำ(น้อยกว่า 5 %DV)

อาทิเช่น ของกินมีไขมันรวม 3 กรัมต่อหน่วยบริโภค พอๆกับ 5% DV แสดงว่า เมื่อรับประทานอาหารจำพวกนี้ 1 หน่วยบริโภค จะได้ไขมัน 5% ของจำนวนไขมันที่อยากได้ใน 24 ชั่วโมง

– ไขมันรวม เป็นจำนวนของไขมันทั้งผองในของกินประเภทนั้นๆที่มีทั้งยังไขมันประเภทดี และก็ไขมันประเภทไม่ดี ต่อ 1 หน่วยบริโภค คนซื้อควรที่จะเลือกของกินที่มีจำนวนไขมันอิ่มตัวน้อยที่สุด เป็นบากบั่นให้น้อยกว่า 1 กรัม ต่อ 1 หน่วยบริโภค รวมทั้งสูงสุดไม่สมควรเกิน 3 กรัม ต่อ 1 หน่วยบริโภค

– ไขมันอิ่มตัวเป็นจำนวนไขมันอิ่มตัวของของกินจำพวกนั้นใน 1 หน่วยบริโภค ซึ่งผู้ใช้ควรจะเลือกกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวให้น้อยกว่า 1 กรัมต่อ 1 หน่วยบริโภค เหตุเพราะไขมันประเภทนี้จะมีผลต่อการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลภายในร่างกาย

– ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวรวมทั้งหลายตำแหน่ง สำหรับข้อนี้ในประเทศไทย ยังไม่มีการบังคับให้อาหารต่างๆจะต้องเจาะจง นอกจากผลิตภัณฑ์ในกรุ๊ปของน้ำมันพืช

– ไขมันทรานส์หมายถึงไขมันจำพวกที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพร่างกาย อาจะกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจได้ ควรที่จะทำการเลือกของกินที่มีไขมัน ทรานส์น้อยหรือถ้าเกิดว่าไม่มีเลยจะยอดเยี่ยม

– คอเลสเตอรอลหมายถึงไขมันประเภทที่ไม่ดี ควรที่จะทำการเลือกของกินที่มีคอเลสเตอรอลจำนวนน้อยกว่า 200 มก. ต่อวัน เพราะเหตุว่าจะไปมีผลทำให้ค่า LDL ในเลือดสูงมากขึ้น

– โซเดียมหมายถึงจำนวนโซเดียมที่มีในของกิน ถ้าหากได้รับมากมาย แม้ว่าจะไม่เป็นผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แม้กระนั้นจะส่งผลเรื่องความดันเลือด ด้วยเหตุดังกล่าวควรจะเลือกของกินที่มีโซเดียมน้อยไม่เกิน 140 มก.ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

– คาร์โบไฮเดรตรวมหมายถึงจำนวนของคาร์โบไฮเดรตที่มีในของกินจำพวกนั้นๆเว้นเสียแต่จำนวนแล้ว ในฉลากยังจะเจาะจงจำนวนของ ใยอาหารรวมทั้งน้ำตาลไว้ด้วย ซึ่งถ้าเกิดในฉลากบอกว่าไม่มีการเติมน้ำตาลเลย จะคือ ของกินจำพวกนั้นมีส่วนผสมของน้ำตาลจากธรรมชาติ แม้กระนั้นหากเพิ่มน้ำตาลเป็นองค์ประกอบ จำนวนน้ำตาลที่กำหนดจะซึ่งก็คือน้ำตาลธรรมชาติรวมกับน้ำตาลที่เพิ่ม หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีน้ำตาลแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบ ซึ่งต้องเจาะจงเอาไว้ในรายการเครื่องปรุงหรือส่วนประกอบของของกินเสมอ โดยข้อมูลตรงส่วนนี้จะมีคุณประโยชน์มากมายกับคนที่เป็นโรคโรคเบาหวานสำหรับในการเลือกกินอาหารต่างๆอย่างมาก

ฉลากโภชนาการกับผู้เจ็บป่วยเบาหวาน
สำหรับคนที่มีอาการป่วยด้วยเบาหวาน ต้องระแวดระวังความประพฤติปฏิบัติสำหรับเพื่อแทงบอลออนไลน์การรับประทานอาหารมากยิ่งกว่าคนธรรมดา เพื่อคุ้มครองปกป้องแล้วก็ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในอยู่ในค่ามาตรฐานเสมอ โดยเหตุนี้ฉลากโภชนาการก็เลยเป็นประโยชน์สำหรับคนไข้เบาหวานมากมายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าของจำนวนคาร์โบไฮเดรตรวม ที่คนเจ็บเบาหวานต้องมีความสนใจเป็นพิเศษ ดังนี้

– หากฉลากโภชนาการกล่าวว่ามีใยอาหารจำนวนเยอะแค่ไหน (มากยิ่งกว่า 5 กรัม) ให้นำจำนวนนั้นไปลบออกจากจำนวนคาร์โบไฮเดรตทั้งผอง แนวทางนี้ใช้กับผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานที่จะต้องให้อินซูลิน

ได้แก่
คาร์โบไฮเดรตทั้งปวงพอๆกับ 12 กรัม ใยอาหาร 9 กรัม = คาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นต้องนับได้เป็น 3 กรัม

– ถ้าเกิดข้อมูลโภชนาการกล่าวว่ามีน้ำตาลแอลกอฮอล์ หรือ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งมีแคลอรีต่ำ เป็นส่วนประกอบ (มากยิ่งกว่า 10 กรัมขึ้นไป )ปริมาณกึ่งหนึ่งจำเป็นต้องนำไปหักจากคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดทั้งปวง

ดังเช่นว่า
คาร์โบไฮเดรตทั้งผอง 26 กรัม (น้ำตาลแอลกอฮอล์ 22 กรัม ÷ 2) = 15 คาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นต้องนับเป็น 15 กรัม

– ขนาดของหน่วยบริโภคในแต่ละสินค้า บางทีอาจจะไม่พอๆกับขนาดของของกิน 1 ส่วนของของกินเปลี่ยนโรคเบาหวานที่เคยใช้กัน หรือหน่วยบริโภคที่กินตามธรรมดา ในกรณีที่รับประทานมากมายว่ากว่าหนึ่งหน่วย สำหรับเพื่อการคำนวณต้องใช้จำนวนที่รับประทานเข้าไปคูณกับค่าต่างๆด้วย

ดังเช่นว่า

ถ้าเกิดรับประทานสองเท่าของหน่วยบริโภคที่กำหนดไว้ สำหรับในการคำนวณต้องคูณจำนวนพลังงาน ไขมัน ไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล โซเดียมด้วย 2 ด้วย ก็เลยจะได้ข้อมูลที่ถูกตามหลักโภชนาการ

– ต้องระวังคำอ้างบนฉลากโภชนาการ อย่างเช่น ของกินคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยทั่วไปคำอ้างจำพวกนี้มิได้รับการยืนยันว่าถูกทั้งหมดทั้งปวง หากว่าของกินบางประเภท จะมีใยอาหารแล้วก็น้ำตาลแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นน้ำตาประเภทดี จะผิดย่อยอย่างสมบูรณ์ แต่ว่าถ้าหากบริโภคของกินพวกนี้ในจำนวนมากเกินความจำเป็น ก็อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นได้ ด้วยเหมือนกัน

– ระแวดระวังองค์ประกอบอื่นๆด้วย เว้นแต่จำนวนของคาร์โบไฮเดรตแล้ว คนที่ป่วยด้วยเบาหวานจะต้องมองฉลากโภชนาการในของกินประเภทนั้นๆเพราะว่ามีจำนวนองค์ประกอบอื่นๆที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายไหม ดังเช่น จำนวนโซเดียม ไขมัน ฯลฯ

– สำหรับของกินที่มีส่วนประกอบของ คาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 5 กรัมต่อ 1 หน่วยบริโภค รวมทั้ง ให้พลังงานน้อยกว่า 20 แคลอรี จะไม่มีการคิดพลังงานหรือคาร์โบไฮเดรตในกรุ๊ปของของกินจำพวกนี้ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล ฯลฯ

– สินค้าที่มีคำว่า No Sugar Add ในฉลากโภชนาการ ซึ่งก็คือของกินประเภทนั้นไม่มีการเติมจำนวนน้ำตาลประเภทใดเพิ่มเข้าไปสำหรับเพื่อการผลิต แต่ว่าสินค้าจำพวกนี้อาจมีจำนวนของคาร์โบไฮเดรตในรูปของแป้งได้เช่นเดียวกัน ผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคโรคเบาหวานจะต้องทานด้วยความระแวดระวัง

– สินค้าที่มีคำว่า Sugar Free ในฉลากโภชนาการ ซึ่งก็คือของกินประเภทนั้นไม่มีน้ำตาล แต่ว่าอาจมีจำนวนของคาร์โบไฮเดรตรวมอยู่ด้วยก็ได้ ในกรณีสินค้าประเภทเดียวกัน แม้กระนั้นแตกต่างที่ufabet ประเภทใดมีคำกล่าวถึงว่า Sugar Free ให้ผู้ใช้เทียบสินค้าอีกทั้ง 2 จำพวก ถ้าหากมีจำนวนของคาร์โบไฮเดรตไม่เหมือนกันมากมาย ควรที่จะเลือกสินค้าที่เป็นแบบ Sugar Free จะยอดเยี่ยม แต่ว่าถ้าหากมีจำนวนของคาร์โบไฮเดรตแตกต่างเพียงนิดหน่อยแค่นั้น ให้คนซื้อเลือกตามความชอบใจได้เลย โดยบางทีอาจไตร่ตรองจากระดับราคาแล้วก็รส

– สินค้าที่มีคำว่า Fat Free ในฉลากโภชนาการ ซึ่งก็คือของกินจำพวกนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ไม่มีไขมัน แต่ว่าอาจมีจำนวนคาร์โบไฮเดรตและก็ให้พลังงานสูงเท่าๆกับจำพวกที่มีไขมัน อาทิเช่น คุกกี้ไม่มีไขมันอาจมีจำนวนคาร์โบไฮเดรตสูง ด้วยเหตุดังกล่าวของกินไม่มีไขมันบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดที่ควรจะเลือกเสมอ

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่มักไม่เอาใจใส่รวมทั้งละเลยการอ่านฉลากโภชนาการไป โดยจะคิดกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่จำเป็นต้อง แม้กระนั้นจากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งสิ้น ก็จะมองเห็นได้ว่าการอ่านฉลากโภชนาการเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากไม่น้อยเลยทีเดียว ช่วยทำให้ลูกค้าอย่างพวกเรา สามารถเลือกของกินรวมทั้งเครื่องดื่มที่จะทานเข้าไปในทุกวันได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด ทั้งยังยังเป็นประโยชน์กับคนที่จะต้องควบคุมการรับประทานอาหาร ดังเช่น ผู้เจ็บป่วยเบาหวาน คนไข้โรคความดันเลือดสูง ฯลฯ ช่วยให้ผู้เจ็บป่วยพวกนี้ได้บริโภคของกินที่อร่อยในจำนวนที่สมควรราวกับคนธรรมดาอื่นๆได้ ช่วยเพิ่มความสบายในคุณภาพชีวิตของคนป่วยพวกนี้ได้มากอย่างยิ่งจริงๆ ด้วยเหตุนั้นถ้าจะซื้อของกินจำพวกใดมาบริโภคสุดแล้วแต่ ควรจะสละเวลานิดหน่อยสำหรับในการอ่านฉลากโภชนาการ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงรวมทั้งยืนยาวของตัวเราเอง